วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ความในใจจากคนเล่าเรื่อง

มูลเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดนิยายธรรมะเล่มนี้เริ่มมาจากการที่ผมและคณะสำรวจไดโนเสาร์ต้องไปขุดสำรวจไดโนเสาร์ที่อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น โดยที่ผมและคณะได้อาศัยพักค้างแรมที่วัดห้วยหินเกิ้ง ( ชื่อเดิม ) เป็นเวลาร่วม ๒ อาทิตย์ (กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑) แล้วก็มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นกับชีวิตของผมอย่างมากมาย ซึ่งผมคิดว่าน่าจะจดบันทึกเอาไว้ ต่อไปหากมีเวลาว่างจะได้นำมาอ่านเล่นเพื่อบำรุงสุนทรียภาพให้กับชีวิต และเพื่อให้ชีวิตมีรอยยิ้มบ้างในภาวะที่โลกเต็มไปด้วยกระแสวัตถุนิยมอันเชี่ยวกรากชีวิตก็คงจะมีความสุขดี สำหรับบุคคลที่มีรายชื่อและถูกผมกล่าวพาดพิงในนิยายธรรมะ ผมกราบขออภัยมา ณ ที่ตรงนี้ด้วยนะครับไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อสุบิน ยายหนูจีน พี่แน่น พี่เดือน  พี่อ้อย  นู๋หลิง  พี่เกษร  พี่ประเสริฐ  พี่สุวัฒน์  พี่มุกดา  และทุกๆคนที่ผมได้ล่วงเกินด้วยกายกรรม  วจีกรรม และมโนกรรม  อโหสิให้ผมด้วยนะครับ
แต่เนื่องจากภาระหน้าที่และเหตุปัจจัยในขณะนั้น ทำให้นิยายธรรมะเรื่องนี้คลอดออกมาล้าช้าเป็นเวลาร่วมปี นิยายบางเรื่องจึงไม่ค่อยสอดคล้องกันเท่าไหร่ บางบทบางตอนเนื้อหาก็กระโดดข้ามไปข้ามมา แต่ถึงอย่างนั้นผมก็มีความตั้งใจว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงหรือดัดแปลงบางบทให้สอดคล้องกัน เนื่องจากต้องการให้เนื้อหาเกิดจากอารมณ์การรับรู้ตอนนั้นจริงๆ
ในปัจจุบันนี้ กระแสของการนั่งวิปัสสนามีค่อนข้างมากโดยเฉพาะในกลุ่มของคนรุ่นใหม่ที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ อีกทั้งมีผู้แต่หนังสือธรรมะออกมาค่อนข้างมาก มากเสียจนเฟ้อ ส่วนใหญ่จะเป็นธรรมะเคลือบน้ำตาล รสหวานกินง่ายแต่กินเข้าไปมากๆแล้วฟันจะผุ ผมเป็นคนหนึ่งที่ปฏิเสธถ้อยคำที่ฟุ่มเฟือยและเคลือบน้ำตาลเหล่านั้น และกล้าที่จะพูดได้ว่านิยายธรรมะของผมเป็นไปเพื่อ “หนทาง” ทางนั้นของพระพุทธองค์ ผมไม่ได้มีเจตนาแต่งนิยายธรรมะเพื่อเป็นไปตามกระแสนิยม หรือต้องการให้ตัวเองเป็นที่รู้จักและยอมรับในสังคมเลยแม้แต่น้อย ก็ในเมื่อเดิมทีไม่มีต้นโพธิ์และกระจกเงาใส แล้วฝุ่นละอองจะลงจับอะไรได้ล่ะครับ
สุธี  จงอัจฉริยกุล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น