วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ของดีอยากได้ต้องทำเอง (ของขลังกับยันต์หนุมาน)

ผมเป็นอีกคนหนึ่ง ที่เป็นคนชอบสะสมและเสาะแสวงหาของขลังของดีเป็นชีวิตจิตใจ ของใครว่าดีของใครว่าขลังเป็นเก็บหมด จนหมดเงินหมดทองไปกับของขลังไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ 

วันแรกที่ผมมาถึงวัดห้วยหินเกิ้งผมเห็นหลวงพ่อสุบินสักยันต์เต็มตัวไปหมด โดยเฉพาะที่หน้าอกด้านขวามียันต์หนุมานทรงพล(เท่ห์ได้ใจ) ผมคิดในใจว่ากูมาถูกวัดแล้ว วัดป่าบ้านนอกไกลผู้ไกลคนและหลวงพ่อสมภารสักยันต์เต็มตัว คราวนี้กูต้องได้ของดีแน่ๆ
 ผมก็เพียรพยายามตามตื้อตามขอของดีจากหลวงพ่อสุบิน 
หลวงพ่อสุบินก็บอกว่าอาตมาไม่มีของดีหรอกโยม ของดีของขลังคือธรรมะของพระพุทธองค์หากใครประพฤติปฏิบัติก็จะเห็นผลได้อย่างอัศจรรย์ 
ขนาดหลวงพ่อสุบินบอกกับผมอย่างนี้ผมก็ยังมีดวงตามืดบอดอยู่เลยครับ คิดแต่เพียงว่าถ้าหลวงพ่อสุบินไม่ให้เหรียญ ผมขอแค่ชายจีวรของหลวงพ่อสุบินก็ได้จะลองเอาไปยิงดู ดูซิว่าจะเหนียวไหม 

ผมขอตั้งแต่วันที่มาวัดวันแรกจนกระทั่งถึงวันเดินทางกลับหลวงพ่อสุบินก็ไม่ให้ 
ผมก็เลยเปลี่ยนแผน คือ ผมคิดว่าถ้าผมขอของดีจากหลวงพ่อสุบินทางตรงไม่ได้ ผมก็น่าจะเข้าทางยายหนูจีนซึ่งเป็นโยมอุปฐาก ผมกะจะให้ยายหนูจีนขอของดีให้ผม 

ผมจึงเดินเข้าไปหาแม่หนูจีนแล้วก็ถามแม่หนูจีนว่าหลวงพ่อสุบินทำของดีแจกบ้างไหมครับยาย 
คำตอบที่ได้ลมแทบจับเลยครับ ดวงตาเห็นธรรมเลยครับ 

ยายหนูจีนบอกกับ ผมว่าในชั่วชีวิตของพระพุทธองค์พระองค์แจกแต่ธรรมะ พระพุทธเจ้าไม่เคยสร้างพระเครื่องแจกเลยตลอดพระชนม์ชีพ(จริงของยาย) ไอ้ของขลังของดีมันเป็นของลวงโลกเป็นมายา ของแท้ของดีคือธรรมะของพระพุทธเจ้าทั้งขลังทั้งดี นึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็อายยายเฒ่าคนเลี้ยงวัวแกจะรู้หนังสือหรือเปล่าก็ไม่รู้แต่แกรู้ธรรมะได้ลึกและคมเหลือเกิน นึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็นึกถึงคนไม่รู้หนังสือคนหนึ่งที่ชื่อ “เว่ยหล่าง” เว่ยหล่างกล่าวเอาไว้ว่า “เดิมทีไม่มีต้นโพธิ์ ไม่มีกระจกเงาใส แล้วฝุ่นละอองจะลงจับอันใดเล่า”

คนขุดซาก เขียน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น