วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2558

กองไฟของกิเลส

ในช่วงเวลาของการไปพักค้างแรมที่วัดห้วยหินเกิ้ง หลายๆคนในทีมสำรวจไดโนเสาร์อาจจะสงสัยในวัตรปฏิบัติของผม
ทุกเช้าผมจะตื่นนอนเวลาประมาณตีสี่และพอทำกิจธุระส่วนตัวเสร็จ ผมก็จะนำเศษไม้ที่หาเอาไว้ตอนเย็นมาก่อกองไฟ  พอตีห้าครึ่งหลวงพ่อสุบินก็จะเปิดเทปธรรมะให้เราชาวคณะสำรวจไดโนเสาร์ได้ฟังธรรมะกัน ผมก็นั่งฟังธรรมะไปดูกองไฟไปจนหลวงพ่อสุบินจะกลับมาจากบิณฑบาตในเวลาประมาณเจ็ดโมงเช้า
ส่วนช่วงเย็นหลังจากเสร็จจากการขุดกระดูกไดโนเสาร์ พวกเราคณะสำรวจไดโนเสาร์ก็จะเดินทางกลับมาที่วัดเพื่อมาพักผ่อน หลังจากที่อาบน้ำและกินข้าวเย็นเสร็จเป็นที่เรียบร้อย และแล้วเวลาของการก่อไฟของผมก็ได้เริ่มขึ้นอีกครั้งในเวลาประมาณหกโมงครึ่ง
จากประสบการณ์ในการก่อกองไฟของผมพบว่า การก่อกองไฟกองแรกจะยากที่สุด แต่ถ้าหากมีกองไฟกองเดิมอยู่แล้วถึงแม้ไฟที่เราก่อจะมอดดับลงไปและเราได้เติมเชื้อไฟลงไปถึงแม้เชื้อไฟจะมีปริมาณน้อย แต่ไฟก็จะลุกติดได้ง่ายเสียเหลือเกิน มันก็คงจะเป็นเหมือนดังกองไฟในใจของผม คือ เมื่อมีเรื่องมากระทบจิตใจถึงแม้ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องเพียงเล็กน้อยก็ตาม ไฟในใจของผมก็ลุกโชนขึ้นมาทันที การก่อกองไฟที่วัดห้วยหินเกิ้งได้สอนธรรมะกับผมหลายอย่าง แต่ที่สำคัญก็คือ มันได้เตือนสติของผมว่า ถ้าหากเรายังไม่มีกองไฟในใจ กรุณาอย่าได้ก่อมันขึ้นมาเลยครับเพราะมันดับได้ยากเอาน้ำมากมายมาดับก็ดับมันไม่ได้ ต้องอาศัยธรรมะในการดับ แต่ถ้าหากในใจของเราเต็มไปด้วยกองไฟของกิเลสและแม้ว่าตอนนี้เรายังดับไฟของกิเลสไม่ได้ อย่างน้อยเราก็อย่างเติมเชื้อไฟลงไป เมื่อไฟไม่มีเชื้อไม่นานนักไฟมันก็จะดับไปเองครับ

คนขุดซาก เขียน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น